
“สิงห์บลูส์” เชลซี กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง เมื่อเฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 จากการทำประตูของ อัลบาโร่ โมราต้า โขกประตูชัย พาทีมเก็บสามแต้มรั้งอันดับ 4 มี 22 คะแนน ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง และสเปอร์สแค่แต้มเดียว
เริ่มเกมมาได้ 2 นาที เจ้าบ้านมีโอกาสก่อน จากจังหวะฟรีคิกทางด้านซ้าย เชส ฟาเบรกาส จ่ายเข้ากลางให้เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซัดจากระยะ 30 หลาถูกดาบิด เด เคอารับเข้าซองได้สบาย
ทีมเยือนมีโอกาสบ้างในนาทีที 7 แอชลีย์ ยัง โยนบอลจากทางซ้ายเข้ามาตรงกลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขึ้นโขกแต่กดไม่ลง บอลโด่งข้ามคานออกไป
เกมมาถึงนาทีที่ 15 ผีแดงมีโอกาสบุกขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่โรเมลู ลูกากูจะรับบอลจากทางฝั่งขวาสับไกระยะ 20 หลาหน้าประตูเชลซี แต่ติโบ กูร์กตัวส์พุ่งปัดไว้ได้
ครึ่งแรกทั้งสองทีมผลัดกันครองบอลเปิดเกมรุกใส่กัน แม้จะมีโอกาสทำประตูแต่ก็ยังไม่มีประตูกันทั้งคู่ จบ ครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังสิงห์บลูส์เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาที 53 จากจังหวะที่ เชส ฟาเบรกัส โยนบอลยาวไปหน้าประตูให้ เอเด็น อาซาร์ ได้เกี่ยวลงแล้วยิงด้วยแข้งขวาซัดเต็มแรงแต่บอลพุ่งไปตรงตัวของ ดาบิด เด เคอา
เชลซีได้ประตูขึ้นนำในนาที 55 จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ลากบอลขึ้นมาก่อนโยนจากระยะ 35 หลาให้ อัลบาโร่ โมราต้า ได้ขึ้นโขกเต็มแรงโล่ง ๆ เข้าประตูไปชนิดที่ ดาบิด เด เคอา ได้แต่ยืนมอง เชลซีขึ้นนำแล้ว 1-0
ช่วงท้ายเกมเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่บุกหวังทำประตูแต่ไม่เป็นผล จบเกมเชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ 1-0 คว้า 3 คะแนนเก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนนรั้งอันดับ 4 ส่วนทีมเยือนมี 23 คะแนนเท่าเดิมรั้งอันดับ 2
ไม่ได้ไปบอลโลกแล้ว! อเล็กซ์...
ดาบิด เด...
ทำดีมีรางวัล! “ปีศาจแดง”...
เจอร์เก้น คล็อปป์...
ยกนิ้วให้! ดาบิด...
เดลี่ เมล...
เริ่มหมดความอดทน! “เดอะ...
เนย์มาร์ ดาวเตะบราซิลวัย...
อันโตนิโอ คอนเต้...